![]() |
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เริ่มแรกนั้นได้รับการก่อตั้งในชื่อ “โรงเรียนไทยเทคนิค”เมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ และปองทิพย์ โอสถานุเคราะ ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “วิทยาลัยกรุงเทพ”และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ” เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2527 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2527 โดยจัดการเรียนการสอนใน 11 คณะ รวมทั้ง วิทยาลัยนานาชาติ และบัณฑิตวิทยาลัย ครอบคลุมสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปัจจุบัน เปิดดำเนินการสอน ใน 2 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท กรุงเทพมหานคร และวิทยาเขตรังสิต จังหวัดปทุมธานี
ประวัติ
มหาวิทยาลัยกรุงเทพถือกำเนิดขึ้นมาจากการก่อตั้ง "โรงเรียนไทยเทคนิค" ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ (เจ้าของบริษัทในเครือโอสถสภา) โรงเรียนตั้งอยู่ในที่ดินในซอยบ้านกล้วยใต้ ริมถนนพระราม 4 (ปัจจุบัน คือ ที่ตั้งของวิทยาเขตกล้วยน้ำไท) ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นถนนลูกรังอยู่ แต่เป็นย่านค้าขายของเหล่าบรรดานายห้างต่างชาติรวมถึงท่าเรือสินค้าที่คลองเตยด้วย
ต่อมา มีการเปลี่ยนชื่อสถาบันใหม่เป็น "วิทยาลัยกรุงเทพ" หรือ Bangkok College เนื่องจาก ชื่อเดิมสร้างความสับสนต่อประชาชนทั่วไปที่คิดว่าเป็นโรงเรียนอาชีวศึกษา การจัดการศึกษาของโรงเรียนในสมัยแรก ๆ ไม่ได้รับการรับรองจากทางราชการไทยเนื่องจากเป็นวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่เปิดสอนในระดับปริญญา ผู้บริหารโรงเรียนจึงได้ขอความร่วมมือทางวิชาการจาก มหาวิทยาลัยแฟรลีดิกคินสัน (Fairleigh Dickinson University) จากสหรัฐอเมริกา ในการรับรองวิทยฐานะของปริญญา โดยในสมัยนั้นผู้ที่ศึกษาจบการศึกษาจากวิทยาลัยกรุงเทพจะได้รับปริญญา 2 ใบ คือ จาก วิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยแฟรลีดิกคินสันด้วย
เมื่อวิทยาลัยกรุงเทพเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยมากขึ้น การขยายตัวก็มีขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ก็มีการเกิดขึ้นของวิทยาลัยเอกชนอีกหลาย ๆ แห่งไม่ว่าจะเป็น วิทยาลัยการค้า วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ การแข่งขันของสถาบันการศึกษาเอกชนเริ่มมีมากขึ้น ผู้บริหารจึงมีโครงการที่จะขยายและยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากทางราชการไทย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2527 วิทยาลัยกรุงเทพจึงได้รับการยกฐานะจากทางราชการไทยให้เป็น "มหาวิทยาลัยกรุงเทพ" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2527
มหาวิทยาลัยกรุงเทพได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว การขยายตัวนี้นำมาซึ่งการเปิดวิทยาเขตแห่งใหม่ที่รังสิต จังหวัดปทุมธานี ห่างจาก ท่าอากาศยานกรุงเทพ ไปตามถนนพหลโยธิน 14 กิโลเมตร ภายในพื้นที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยมีความหวังที่จะสร้างวิทยาเขตรังสิตให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีบรรยากาศเหมือนมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ชานเมือง มีสวน มีต้นไม้ มีทะเลสาบ และมีอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ด้วยความห่างไกลความเจริญของรังสิตในสมัยนั้น มหาวิทยาลัยกรุงเทพวิทยาเขตรังสิตถูกขนานนามว่าเป็น กระท่อมปลายนา จากการเรียกของนักศึกษา
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
ตราประจำมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยกรุงเทพใช้รูปเพชร เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยมาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้ง แต่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบมาแล้วหลายครั้ง โดยในรูปแบบดั้งเดิมนั้น เรียกว่า เพชรในชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นตราที่ประกอบไปด้วยรูปเพชร และล้อมรอบด้วยช่อชัยพฤกษ์ แต่ปัจจุบัน (ตั้งแต่ปีการศึกษา 2548) มีการเปลี่ยนแปลงตรามหาวิทยาลัยใหม่ แต่ยังคงเป็นรูปเพชร ซึ่งออกแบบให้มีลักษณะความทันสมัยมากขึ้น และเพิ่มเติมสีสัน เพื่อให้สื่อความหมายต่างๆ มากขึ้นด้วยที่มาของตรามหาวิทยาลัยรูปเพชรนั้น แท้จริงแล้ว มีที่มาจากชื่อผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยคือ สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ คำว่า สุรัตน์ แปลว่า แก้วอันประเสริฐ ซึ่งก็คือ เพชร นั่นเอง การนำเพชรมาเป็นตรามหาวิทยาลัย จึงเป็นการให้เกียรติ และเป็นการระลึกถึงผู้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้นั่นเอง นอกจากนั้น เพชรยังสื่อความหมายถึงคุณค่า และความแข็งแกร่ง และมหาวิทยาลัย เปรียบเสมือนสถานที่เจียระไนนักศึกษา ให้กลายเป็นเพชรที่มีเกียรติ มีคุณค่า มีความมั่นคงแข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับในสังคม
สีประจำมหาวิทยาลัย
ที่มาของสีสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยนั้น จากหลักฐานและบันทึกทางประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย แต่เดิมมหาวิทยาลัยใช้ สีเขียวอมฟ้า เป็นสีประจำมหาวิทยาลัย ดังจะเห็นได้จาก ปกเสื้อครุยของบัณฑิตรุ่นแรก ๆ ที่เป็นสีเขียวอมฟ้า และจากเพลงมาร์ชของมหาวิทยาลัย ที่ยังคงมีเนื้อร้องว่า ธงเขียวเชิดให้เด่นไกลนานเนาว์ มาจนถึงปัจจุบันปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาใช้ สีม่วง และ สีแสด เป็นสีประจำมหาวิทยาลัย โดยการเปลี่ยนแปลงสีประจำมหาวิทยาลัยนั้น เพื่อเป็นเกียรติกับสองบูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย เนื่องจากสีม่วงเป็นสีประจำวันเสาร์ และสีแสดเป็นสีประจำวันพฤหัสบดี
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
ต้นชัยพฤกษ์เป็นต้นไม้มงคลที่ใช้ในพิธีการมงคลตามความเชื่อของคนไทย นำมาใช้เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกต้นชัยพฤกษ์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารฝั่งทิศใต้ ของอาคารหอสมุดสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นับเป็นพระกรุณาธิคุณและเป็นมิ่งขวัญของชาวมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ต้นชัยพฤกษ์แห่งมิ่งมงคลนี้ จะหยั่งรากลึกลงในหัวใจของชาวมหาวิทยาลัยกรุงเทพสืบต่อไป
เพลงประจำมหาวิทยาลัย
เพลงประจำมหาวิทยาลัย ที่ใช้ในพิธีการและโอกาสต่างๆ นั้น มีทั้งเพลงมาร์ช และเพลงความรู้คู่ความดี เป็นเพลงที่ใช้มาตั้งแต่มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัย ลักษณะคำร้อง ทำนอง และแนวดนตรี จึงเป็นไปในลักษณะย้อนยุค>>>>>ขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย<<<<<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น